นักท่องเที่ยว ชื่นมื่นเที่ยว บินตรงเบตง "เบตง หรอยแรง แหล่งใต้ สไตล์นกแอร์" สายเที่ยวแนวรักษ์ธรรมชาติไม่ควรพลาด
บรรยากาศการท่องเที่ยวหลังการคลายล็อกโควิด-19 กลับมาคึกคักอีกครั้ง การเดินทางแบบบินตรงสู่ อ.เบตง จ.ยะลา เมืองธรรมชาติแสนงามแดนใต้ จึงถือได้ว่าเป็นแคมเปญที่น่าสนใจ สำหรับสายเที่ยวแนวรักษ์ธรรมชาติ
เสน่ห์ของ อ.เบตง จ.ยะลา “เมืองในหมอก ดอกไม้งาม ใต้สุดสยาม เมืองงามชายแดน” ต้นแบบเมืองท่องเที่ยวพึ่งพาตนเอง สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับสมาคมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยว (สธทท.) และบริษัทสายการบินนกแอร์ จำกัด(มหาชน) จัด แคมเปญ บินตรง เบตง "เบตง หรอยแรง แหล่งใต้ สไตล์นกแอร์"
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า พื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา เป็นหนึ่งในโครงการเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ที่ภาครัฐได้ผลักดันให้เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวแบบพึ่งพาตนเอง (Sustainable Development City) ซึ่งรัฐได้มีการส่งเสริมและพัฒนาให้แหล่งท่องเที่ยวเป็นที่รู้จักในระดับโลก ส่วนหนึ่งเพราะเบตงเป็นเมืองที่มีศักยภาพ และมีความพร้อมทางด้านทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ ผนวกกับปัจจุบันเบตงมีแหล่งท่องเที่ยวเกิดขึ้นมากมาย อาทิ สกายวอร์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง บ่อน้ำร้อนนากอ ชุมชนชาวจีนฮากกา 150 ปี อุโมงค์ปิยะมิตร และสวนไม้ดอกเมืองหนาว หมู่บ้านไก่เบตง หมู่บ้านปลากือเล๊าะห์ เป็นต้น
ในอนาคต เชื่อว่า “เบตง” จะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและมาเลเซีย โดยคาดการณ์ว่าหลังเปิดด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย และเปิดทำการบินอย่างต่อเนื่อง จะมีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียและจากประเทศใกล้เคียง เดินทางมาเที่ยวชมเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน สามารถที่จะเป็นฮับด้านท่องเที่ยวเพื่อเชื่อมต่อไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย อินโดนีเซียและสิงค์โปร์ เมื่อเกิดกระแสบอกต่อข้อมูลการท่องเที่ยวในสื่อสังคมออนไลน์ เบตงจะเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ททท.จึงออกแคมเปญร่วมกับภาครัฐและเอกชน เพื่อกระตุ้นกลุ่มที่ยังลังเลและไม่กล้าออกเดินทางมาเบตง ให้ร่วมสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ในแคมเปญ บินตรงเบตง "เบตง หรอยแรง แหล่งใต้ สไตล์นกแอร์" นำร่อง 3 เดือนแรก พร้อมให้บริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ขายแพ็คเกจ 3 วัน 2 คืน เริ่มต้นที่ราคา 9,900 บาท โดยเริ่มทำการบินแล้วเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งจะให้บริการใน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ คือ วันอังคาร ศุกร์ และอาทิตย์
และในอนาคตศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมป่าไม้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีแผนที่จะฟื้นฟูและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและประวัติศาสตร์ อุโมงค์หลบภัยที่มีขนาดใหญ่อีกหนึ่งแห่ง นอกจากอุโมงค์ปิยะมิตรแล้วคือ “ต้าสวุ่ยต้อ” อุโมงค์แห่งใหม่ในป่าสงวนแห่งชาติ หนึ่งแลนด์มาร์คที่สำคัญในพื้นที่ อ.เบตง ขุดด้วยแรงงานคน และใช้งานในสมัยการสู้รบระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์ มลายากับรัฐบาลมาเลเซีย ในช่วงปี พ.ศ. 2491-2532 เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยทางอากาศ ซึ่งมีการขุดเจาะทางเข้าออกหลายทางเชื่อมโยงถึงกันคล้ายใยแมงมุมกว่าสิบอุโมงค์ มีห้องนอน และพื้นที่ปฏิบัติการ เช่น สถานีวิทยุ ห้องเก็บเสบียง ฯลฯ นับเป็นการก่อสร้างจากฝีมือมนุษย์ที่ชาญฉลาดในอดีตให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์แก่คนรุ่นหลัง และนักท่องเที่ยวที่สนใจ โดยได้เริ่มดำเนินการมาแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 ไปจนถึงเดือนกันยายน 2567 ทั้งนี้ ทาง ศอ.บต. ได้มีการเสนอและหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในพิธีเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ดอนเมือง - เบตง เมื่อวันจันทร์ที่ 14 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา
ในด้านกระแสตอบรับแหล่งท่องเที่ยว Skywalk ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ตั้งแต่ที่มีการเปิดตัว และภาครัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 Skywalk ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง มีกระแสตอบรับที่ดีมาก หลายคนยกให้เป็นหนึ่งในจุดชมวิวทะเลหมอกที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย หากค้นหาคำว่า “เที่ยวไทย” หรือ "เที่ยวใต้" ผ่าน Google ก็จะพบทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ขึ้นมาในอันดับต้นๆ
พื้นที่ ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา มีนักท่องเที่ยวชาวไทยทั้งในยะลา และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงจากต่างภูมิภาค เดินทางมาท่องเที่ยวที่สกายวอล์กอัยเยอร์เวง เพื่อชมความงามของทะเลหมอกและรอชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ช่วงวันธรรมดา และวันหยุดสุดสัปดาห์ มีจำนวนผู้เดินทางเข้าชมวันละประมาณ 2,000 – 3,000 คน และวันหยุดนักขัตฤกษ์ มีจำนวนผู้เดินทางเข้าชมวันละประมาณ 10,000 คน ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางตั้งแต่ช่วงเช้ามืด เพื่อที่จะได้ขึ้นไปชมแสงแรกของวัน ชมพระอาทิตย์ยามเช้า และชมความงดงามของทะเลหมอก และช่วงสายหลังจากหมอกเริ่มจาง ก็จะมองเห็นวิวทิวทัศน์ของภูเขา ผืนป่าฮาลา-บาลา และต้นน้ำทะเลสาบเขื่อนบางลาง ที่สวยงามไม่แพ้แหล่งท่องเที่ยวทางภาคเหนือ รวมถึงอากาศที่เย็นสบาย “ถ้ามาเบตงแล้วไม่ได้ไปเดินบนสกายวอล์ก ชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ก็ถือว่ามาไม่ถึงอำเภอเบตงใต้สุดแดนสยาม
ทั้งนี้ บนสกายวอล์ก มีเจ้าหน้าที่ คอยให้บริการจัดระเบียบเว้นระยะห่าง ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด ผู้ที่เดินทางเข้ามายังบริเวณอาคารสกายวอล์ก ต้องแสดงหลักฐานการลงทะเบียน สแกน QR Code (YALA SAFE ALERT) พร้อมหลักฐานการฉีดวัคซีน 2 เข็ม ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย
ส่วน สตรีทอาร์ท เบตง (STREET ART BETONG) นั้น มาเบตง นอกจากจะสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนได้จากชีวิตจริงในชุมชนและตลาดเช้าในตัวเมืองแล้ว เรายังสามารถพบเห็นสตรีทอาร์ท เบตง ที่สื่อถึงเรื่องราววิถีชีวิตตามแบบฉบับของชาวเบตง ที่ถ่ายทอดเป็นผลงานจิตรกรรมภาพวาดที่มีทั้งเรื่องราวอดีตและปัจจุบัน เช่น วัฒนธรรมการดื่มน้ำชาในยาม เช้า ตลาดพืชผักสวนครัวยามเช้า ไก่พันธุ์เบตงขึ้นชื่อ กบภูเขาสัตว์เศรษฐกิจของเมืองเบตง และยังมีภาพตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตลาดยามเช้า และอื่นๆ อีกมากมายให้เห็นบนท้องถนน สร้างบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาให้กับเมืองเล็กๆ แห่งนี้ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสามารถทำความรู้จักเรื่องราววิถีชีวิตของชาวเบตงได้เกือบทั้งหมดจากภาพวาดเหล่านี้ สื่อให้เห็นถึงความหลากหลายของวัฒนธรรมของคนเบตง ทำให้ภูมิทัศน์ของเมืองมีสีสันมากขึ้น ศิลปินผู้วาดใช้ทั้งเทคนิคการวาดและการพ่นสีแบบกราฟิติ ถ่ายทอดออกมาได้อย่างงดงาม อบอุ่น แม้จะเป็นสิ่งเล็กน้อย แต่เมื่อเวลาผ่านไป วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไป ภาพวาดเหล่านี้จะเป็นบทบันทึกตัวแทนความทรงจำที่งดงาม
คำว่า "เบตง" คือ ความงดงามที่ต้องไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต ในส่วนของนิยามคำขวัญ เมืองในหมอก...ดอกไม้งาม...ใต้สุดสยาม...เมืองงามชายแดน” ของ อ.เบตง จ.ยะลา นั้น บ่งบอกถึงความงดงามของอำเภอใต้สุดของประเทศไทย ดินแดนที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ อากาศดี และมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสัญลักษณ์อยู่อย่างมากมาย ความสวยงามทางพหุวัฒนธรรมที่หากได้สัมผัสแล้วคุณจะหลงรักที่นี่มากขึ้น ความน่ารักและมิตรภาพของคนในพื้นที่ ชุมชนท่องเที่ยว สินค้าและบริการที่เป็นเอกลักษณ์ของเบตง รอต้อนรับนักเดินทางทุกคนให้เข้ามาสัมผัสและได้เรียนรู้กับประสบการณ์ เบตง Amazing ยิ่งกว่าเดิม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น