สธทท. ร่วมกับ ทกจ.สระแก้ว และ สทท.จังหวัดสระแก้ว สำรวจแหล่งท่องเที่ยว จ.สระแก้ว เพื่อนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยว จ.สระแก้ว
สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) นำโดยนายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ นายก สธทท.ร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสระแก้ว โดยนายสานนท์ เพ็ญแสง ผู้อำนวยการ ทกจ.สะแก้ว สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสระแก้ว โดยคุณราตรี แสงรุ่งเรือง ประธาน สทท.จังหวัดสระแก้ว และ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวและบริการจังหวัดสระแก้ว โดยคุณรุ่งนภา ไท้เชียง นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวและบริการจังหวัดสระแก้ว จัดกิจกรรมนำคณะสื่อมวลชนสำรวจแหล่งท่องเที่ยว จ.สระแก้ว เพื่อประเมินศักยภาพแหล่งท่องเที่ยว และวางเส้นทางท่องเที่ยวสำหรับนำนักท่องเที่ยวเที่ยวจังหวัดสระแก้ว เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ
โดยการเดินทางสำรวจแหล่งท่องเที่ยวที่ในครั้งนี้มีทั้งหมด 14 จุด ใน 8 อำเภอ ได้แก่ โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ วัดป่าใต้พัฒนาราม อ่างเก็บน้ำพระปรง ละลุ ชุมชนชาวเวียดนาม ชุมชนข้าวหลามบ้านพร้าว วัดแม่ย่าซอม หมู่บ้านทับทิมสยาม05 ถ้ำน้ำเขาศิวะ อินทผาลัมวังน้ำฟ้า เขาฉกรรจ์ อุทยานแห่งชาติปางสีดา แหล่งหินตัด ปราสาทสด๊อกก๊อกธม
เริ่มจาก โครงการพระราชดำริในมูลนิธิชัยพัฒนา นั่นคือ “โรงเรียนกาสรกสิวิทย์” ตำบลศาลาลำดวน อำเภอเมืองสระแก้ว นายสมจิตต์ และนางมณี อิ่มเอย น้อมเกล้าฯ ถวายที่ดินจำนวน 110-3-81 ไร่ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิชัยพัฒนา ดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ เพื่อเป็นศูนย์ฝึกกระบือให้สามารถไถนาและทำงานด้านการเกษตรกรรม และสอนผู้ที่ต้องการใช้กระบือทำการเกษตรให้สามารถทำงานร่วมกับกระบือได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถดูแลกระบือให้มีสุขภาพแข็งแรง นอกจากนี้จะเป็นสถานที่ที่ให้ความรู้กับประชาชนในเรื่องวิถีชีวิต ความเป็นอยู่แบบพื้นบ้านที่เรียบง่าย ได้เรียนรู้วัฒนธรรมการเกษตรท้องถิ่น และภูมิปัญญาชาวบ้าน รวมทั้งการใช้ชีวิตแบบพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายในยังมีร้านกาแฟควายคะนอง ให้นั่งจิบกาแฟผ่อนคลายอารมณ์ด้วย
ต่อด้วยการกราบสักการะหลวงปู่บุดดา ปัญญาธโร พระเกจิ 6 แผ่นดิน อายุ 112 ปี ที่วัดป่าใต้พัฒนาราม ตำบลโนนหมากเค็ง อำเภอวัฒนานคร ภายในมีพระอุโบสถที่ดูสวยงามวิจิตร โดยมีพระมหาอภิวัฒน์ เป็นผู้ออกแบบโครงสร้าง ส่วนการออกแบบตกแต่งทั้งภายใน พระอาจารย์สมุห์สุริยา (หลวงพี่น้อย) พระอุปัฏฐากหลวงปู่บุดดา ได้แนวความคิดมาจากการประยุกต์ให้เข้ากับสมัยใหม่ โดยท่านเล็งเห็นว่า หลวงปู่บุดดาเป็นคนโบราณจึงอยากสร้างพระอุโบสถหลังนี้ให้เป็นจุดเด่น สะดุดตา และแปลกใหม่ของจังหวัดสระแก้ว โดยภายในสวยสะดุดตาและเป็นไฮไลต์เพราะผนังโบสถ์กรุด้วยเซรามิกลงน้ำทองแท้บริสุทธิ์ โดยใช้ทองคำ 75 % ละลายลงในเซรามิกสีดำ ซ่งต้องสั่งทำเป็นพิเศษ และมีแค่เพียง 3 แห่งในประเทศไทย โครงสร้างและลวดลายปูนปั้นเป็นการผนวกรวมกันของศิลปะ 3 ภาคคือ ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสาน ซึ่งการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ ถ้าสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วจะถือว่าเป็นพระอุโบสถที่สวยแห่งหนึ่งในจังหวัดสระแก้ว
หลังกราบสักการะพระเกจิ 6 แผ่นดิน และชมความสวยงามของพรอุโบสถแล้ว ก็เดินทางไปล่องแพทานอาหารกลางวันประเภทปลารสชาติอร่อย ราคาย่อมเยา ที่อ่างเก็บน้ำพระปรง ตำบลช่องกุ่ม อำเภอวัฒนานคร เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของจังหวัดสระแก้ว มีความจุมากถึง ล้านลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นเพื่อกั้นต้นน้ำห้วยพระปรงซึ่งเป็นลำน้ำที่ไหลลงมาจากอุทยานแห่งชาติปางสีดา ทั้งนี้ด้วยสภาพป่าที่สมบูรณ์อ่างเก็บน้ำพระปรง จึงกลายเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยพันธุ์ปลานานาชนิด เสน่ห์ของอ่างเก็บน้ำพระปรงอยู่ที่การนั่งเรือล่องแพชมทิวทัศน์ธรรมชาติ ตกปลา ดูนกป่า นกทุ่ง นกน้ำนานาชนิด โดยเฉพาะนกน้ำขนาดใหญ่ที่หายากใกล้สูญพันธุ์อย่าง “นกอ้ายงั่วหรือนกงู” ที่มีรายงานการพบนกชนิดนี้มากถึง 70-100 ตัว ถือเป็นแหล่งหากินของนกงูที่ใหญ่ที่สุดของไทย
อิ่มได้ที่แล้ว ก็เดินทางไปชมงานศิลปะที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นอย่างวิจิตรสวยงามที่ละลุ ตำบลทัพราช อำเภอ ตาพระยา เป็นประติมากรรมที่เกิดขึ้นจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทางธรณีวิทยา มีความสวยงามแปลกตาลักษณะคล้ายแพะเมืองผี จังหวัดแพร่ หรือเสาดินนาน้อยและคอกเสือ จังหวัดน่าน ละลุมาจากภาษาเขมรแปลว่าแผ่นดินทะลุ เราต้องจอดรถไว้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว แล้วใช้รถอีแต๊กท่องเที่ยวของชุมชนเข้าไปด้านใน เนื่องจากการขับรถเข้าไป อาจจะทำให้พื้นดินในบริเวณนั้นเกิดการยุบตัวและสร้างความเสียหายได้ เรานั่งรถอีแต๊กชมความสวยงามที่เกิดจากธรรมชาติถูกลมและฝนกัดเซาะเป็นรูปร่างต่างๆ สวยงามและแปลกตา บ้างมีรูปร่างคล้ายจอมปลวก ดอกเห็ด เสาหินเป็นแท่ง เจดีย์มียอดแหลม หรือเป็นหน้าผาเตี้ยที่มีหลืบ เรียงรายเป็นบริเวณกว้างอยู่กลางทุ่ง คล้ายกับว่าเป็นเมืองแห่งตำนานเทพนิยาย กลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของเมืองไทย
ชมความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติสร้างสรรค์ ก็เดินทางไปสัมผัสวิถีชาวเวียดนามที่ชุมชนมิตรสัมพันธ์ ตำบลอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ เป็นชาวญวนที่อพยพเข้ามาอยู่ตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ ชมความสวยงามของ “วัดเจริญบุญ” วัดญวนที่อยู่ภายในชุมชนชาวเวียดนาม เป็นวัดที่มีศิลปะแบบเวียนดนาม ภายในมีวิหารเสาเดียวที่หาชมได้ยากในประเทศไทย
ตกเย็นรับประทานอาหารเวียดนาม “ร้านยายต๊าม” ร้านอาหารเวียดนามร้านแรกในอำเภอรัญประเทศ ที่มีรสชาติยังอร่อยถูกปากทั้งชาวสระแก้วและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาอำเภอรัญประเทศ แถม บริการประทับใจ ร้านนี้ขายอาหารเวียดนามมาตั้งแต่รุ่นแม่คือยายต๊าม ที่เป็นที่มาของชื่อร้านในปัจจุบัน มีอาหารอร่อยมากมาย ไม่ว่าจะเป็น บั่นหอย หมี่ขาวแกล้มหมูสามชั้นคลุกเคล้าน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน โรยหอมเจียวกรอบอร่อย ที่เป็นอาหารจานเด็ดของยายต๊าม แหนมเนือง น้ำจิ้มทำเอง ใส่ข้าวเหนียวและถั่วทองตำ โรยด้วยถั่วลิสงคั่วใหม่ทุกวัน ขนมเบื้องญวน ปอเปี๊ยะสด หรือปากหม้อญวน ที่หน้าตาอาจจะดูธรรมดาแต่ต่างจากเจ้าอื่น เพราะถีพิถันในทุกขั้นตอนการผลิต ทำเองหมดทุกอย่าง อย่างปากหม้อ ที่แป้งนุ่มเหนียวและบางเฉียบ เพิ่มความกรอบด้วยมันแกวซอยเป็นเส้นบางๆ ปรุงรสจนซึมถึงเนื้อใน แถมมีหมูยอหั่นเป็นเส้นหนาแบบไม่หวงเครื่อง ใครที่ได้มีโอกาสแวะมาอรัญประเทศ อย่าลืมมากินอาหารเวียดนามที่ร้านยายต๊ามนะครับ
เช้าวันใหม่ เราเดินทางไปชิม“ข้าวหลามบ้านพร้าว” อำเภอวัฒนานคร เป็นข้าวหลามแสนอร่อยที่มีทั้งข้าวเหนียวขาว ข้าวเหนียวดำ และหน้าสังขยา รสหวานมัน ชุ่มด้วยน้ำกะทิ เป็นภูมิปัญญาด้านอาหารที่มีกระบวนการทำ โดยนำเอาวัตถุดิบภายในท้องถิ่นมาแปรรูปเพื่อจำหน่าย และเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงของบ้านพร้าว ส่วนจ้าที่มีชื่อเสียงคือข้าวหลามป้าบาง เพราะทำขายมากว่า 50 ปีแล้ว
ชิมข้าวหลามแสนอร่อยแล้ว ก็เดินทางไปไหว้แม่ย่าซอม ที่เป็นศูนย์รวมใจของชาวคลองหา ที่ชาวบ้านนับถือ โดยชาวคลองหาดเชื่อว่าท่านมีความศักดิ์สิทธิ์ ในการอำนวยพรในเรื่องขอฝน ทำนา ทำกินติดขัด มีปัญหาคดีความ การค้าขาย ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ขอพรให้หายจากอาการเจ็บป่วย รับราชการ แม่ย่าซอมก็ช่วยดลบันดาลให้ได้ในทุกๆ เรื่อง รวมถึงโชคลาภ ที่วัดแม่ย่าซอม ตำบลคลองหาด อำเภอคลองหาด เมื่อมาถึงก็สัมผัสได้ถึงแรงศรัทธาของชาวบ้านที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างศาสนสถาน และศาสนวัตถุมากมายภายในวัด ที่เต็มด้วยมนต์ขลังของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ไม่ว่าจะเป็นองค์พระพิฆเนศสีทององค์ใหญ่ พระราหูที่ องค์พญานาค เทพทันใจ เรียกได้ว่ามาวัดนี้วัดเดียว สายมูได้สักการะขอพรกันครบ
ขอพรอันเป็นมงคลแล้วก็เดินทางไปที่บ้านทับทิมสยาม 05 ตำบลคลองไก่เถื่อน อำเภอคลองหาด เป็นโครงการศึกษาและพัฒนาสมุนไพรเพื่อการวิจัย สำนักกิจกรรมพิเศษ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โดยทางสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ได้เข้ามาอบรมให้ความรู้แก่สมาชิกด้านกระบวนการปลูกและการแปรรูปสมุนไพร และได้รับการจัดสรรพื้นที่เพื่อปลูกสมุนไพร อาทิ ไพล ขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร รางจืด ดอกคำฝอย อัญชัน และฝาง เป็นต้น แล้วก็นำสมุนไพรเหล่านี้มาจำหน่ายให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปเป็นสมุนไพรอบแห้งหรือสมุนไพรตากแห้ง และมีการนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน อาทิ ลูกประคบ, น้ำมันไพล, เครื่องดื่มจากสมุนไพร, สบู่, ยาหม่องไพล, ยาหม่องเสลดพังพอน อีกส่วนหนึ่งก็จะนำสมุนไพรแห้งมาบรรจุถุงส่งให้กับลูกค้าของกลุ่ม เช่น โรงพยาบาลแพทย์แผนไทยวังน้ำเย็นและโรงพยาบาลอภัยภูเบศร บ้านทับทิมสยาม 05 อยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ถูกรายล้อมไปด้วยภูเขา จึงมีทัศนียภาพอันสวยงามแปลกตา อากาศบริสุทธิ์ เหมาะแก่การมาปั่นจักยานท่องเที่ยว รวมทั้งมีจุดชมวิว 360 องศาอีกด้วย
ตามด้วยการเดินทางไปชมถ้ำน้ำเขาศิวะ ตำบลคลองไก่เถื่อน อำเภอคลองหาด ตั้งอยู่บริเวณบ้านเขาจันทร์แดง ระหว่างเทือกเขาตาง็อกและเทือกเขากกมะม่วง เป็นถ้ำที่มีน้ำไหลออกมาทั้งปี ถ้ำลึก 500 เมตร ระดับน้ำสูงตั้งแต่ 10-220 เซนติเมตร ภายในมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม บางที่มีลักษณะคล้ายม่าน นอกจากนี้ภายในถ้ำมีหลายคูหาที่น่าสนใจ เช่น น้ำตกงวงช้าง หินพระศิวะ หัวใจถ้ำน้ำ น้ำตกทราย หินย้อยร้อยยอด ฯลฯ ระหว่างทางเดินตามลำธารมี 2 ช่วงที่ลึกจนต้องลอยคอไปได้แต่ไม่ลำบากมาก ว่ายน้ำไม่เป็นก็ไปได้ เหมาะสำหรับผู้รักการผจญภัย โดยมีเจ้าหน้าที่นำทางดูแลตลอดเวลา และทางเจ้าหน้าก็มีอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมไป ให้ ได้แก่ เสื้อชูชีพ ไฟฉายสปอร์ตไลท์ กล่องสำหรับวางกล้องไปบนห่วงยาง รองเท้ายางหุ้มส้น แต่วันนี้เป็นที่น่าเสียดาย ที่เราไม่สามารถเข้าถ้ำน้ำได้ เพราะฝนตกหนัก
ต่อด้วยการชมสวนอินทผาลัมวังน้ำฟ้า ตำบลวังใหม่ อำเภอวังสมบูรณ์ เป็นสวนอินทผาลัมที่เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ และสถานที่ท่องเที่ยว พร้อมจำหน่ายอินทผาลัม โดยที่นี่มีอินทผาลัมพันธ์อัมเอ็ดดาฮาล (UM ED DAHAN) ซึ่งเป็นพันธุ์ใหม่ล่าสุดของโลก
ทานอินทผาลัมสดที่หวาน กรอบ อร่อยแล้ว เราก็เดินทางกันต่อไปที่สวนรุกขชาติเขาฉกรรจ์ ตำบลเขาฉกรรจ์ อำเภอเขาฉกรรจ์ เพื่อชมฝูงค้างคาวหลายแสนตัวบินออกไปหาอาหารในตอนเย็นเป็นสายยาวดำทะมึน เขาฉกรรจ์ เป็นเขาหินปูนดึกดำบรรพ์ อายุราว 2-4 พันปี ขนาดใหญ่สามลูกที่ตั้งเรียงตัวติดกัน ได้แก่ เขาฉกรรจ์ซึ่งเป็นลูกที่ใหญ่ที่สุดตรงกลาง ขนาบด้วยภูเขามิ่งและเขาผา ส่วนชื่อของเขาฉกรรจ์มีที่มาจากพิธี "ฉอ-กัณฑ์" โดยพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ตอนนั้นพระองค์ท่านยังดำรงตำแหน่งเป็นพระยาวชิรปราการ เพื่อกอบกู้เอกราชตอนเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 โดยพิธีนี้จะมีการเพ่งกสิณเพื่อเรียกจิตภูตของชุมนุมทั้ง 5 พร้อมกับทำพิธีตัดไม้ข่มนาม ส่งผลให้สามารถยกทัพไปตีชุมนุมทั้ง 5 และกอบกู้เอกราชสำเร็จ ต่อมาได้เพี้ยนจาก "ฉอ-กัณฑ์" เป็นคำว่า "ฉกรรจ์" จนถึงปัจจุบัน
ชมความน่าทึ่งของค้างคาวออกหากินเป็นสายแล้ว ก็ได้เวลาอาหารเย็น มื้อนี้เราทานกันที่ร้านอาหารเวียดนาม ยายเต็ม ถนนเทศบาล17 ตำบลสระแก้ว อำเภอเมืองสระแก้ว ร้านอาหารดังที่ใครมาสระแก้วก็ต้องมาชิม ที่ภายในตกแต่งสไตล์สุดคลาสสิค ย้อนยุคด้วยบรรดาของเก่าโบราณ ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์โบราณ ตู้โชว์และสินค้าแบบร้านโชว์ห่วยสมัยก่อน รวมทั้งมอเตอร์ไซค์และรถคลาสสิค นั่งทานอาหารเวียดนามแสนอร่อย อาทิ แหนมเนือง ขนมเบื้องญวน ปอเปี๊ยะสด และอื่นๆ อีกมากมาย แบบเพลิดเพลินเจริญอาหาร เคล้าเสียงดนตรีแสดงสด หรือจะเลือกความสงบส่วนตัวในห้องวีไอพีก็ได้
รุ่งอรุณวันใหม่ พวกเราก็เดินทางไปชมความสวยงามอันร่มรื่นที่อุทยานแห่งชาติปางสีดา ตำบลท่าแยก อำเภอเมือง มีเนื้อที่ 529,375.81 ไร่ ประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะเป็นที่ศึกษาเรื่องสัตว์ป่าที่สำคัญ เพราะมีสัตว์ป่าหายากและนกกว่า 300 ชนิด และที่เป็นไฮไลท์ของอุทยานแห่งชาติปางสีดาก็คือการมาชมผีเสื้อนานาชนิดหลากสีสันมากกว่า 350 ชนิดบริเวณโป่งดินที่เกิดตามธรรมชาติ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน กิจกรรมดูผีเสื้อจะมีให้ชมมากเป็นพิเศษในช่วงเดือนมิถุนายน-เดือนกรกฎาคม นอกจากนี้ภายในเขตอุทยานฯ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอยู่มากมาย เช่น น้ำตกปางสีดาเป็นน้ำตกที่ทิ้งตัวจากหน้าผาสูง 8 เมตร น้ำตกผาตะเคียนอยู่ห่างจากน้ำตกปางสีดา ประมาณ 2.5 กิโลเมตร ลักษณะเป็นหน้าผาสูง 20 เมตร ในช่วงฤดูฝนสายน้ำจะไหลทิ้งตัวลดหลั่นเป็นชั้น ๆ ดูสวยงามมาก
หลังชมความสวยงามของผีเสื้อและน้ำตกจนพอใจ ก็เดินทางไปชมแหล่งหินตัดทัพไทย หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าสระเพลง ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติตาพระยา ตำบลทัพราช อำเภอตาพระยา เป็นแหล่งหินทรายที่มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ พบร่องรอยการตัดหินทรายลึกลงไปจากพื้นดินราว 4-5 เมตร เป็นแนวยาวตลอดอาณาบริเวณ ร่องรอยของการตัดหินเป็นลักษณะการเจาะเนื้อหินลงไปเป็นชั้นๆ ความลึกชั้นละประมาณ 5 นิ้ว เพื่อนำไปสร้างปราสาท สำหรับการเดินทางเข้าสู่แหล่งหินตัดต้องมีผู้นำทาง และต้องแจ้งแก่อุทยานแห่งชาติตาพระยาให้ทราบล่วงหน้า
ต่อด้วยการชมปราสาทขอมเก่าแก่อายุพันกว่าปี เก่าแก่กว่านครวัดหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอันโด่งดังแห่งเมืองเมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา นั่นคือปราสาทสด๊กก๊อกธม ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง เป็นสร้างขึ้นด้วยหินศิลาแลง ตามลักษณะศิลปะขอมแบบคลัง-บาปวน สร้างเสร็จในสมัยพระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่2 แลง เป็นปราสาทหินที่ใหญ่ที่สุดในในภาคตะวันออก เป็นเทวสถานหรือสถานที่ประกอบพิธีกรรมของศาสนาพราหม์ฮินดูในสมัยโบราณ ด้านหน้าก่อนถึงทางเข้าปราสาท จะมีบารายซึ่งเป็นสระน้ำโบราณขนาดใหญ่ที่ใหญ่ที่ใช้ในการเกษตรกรรมและประกอบพิธีกรรม ซึ่งบ่อแห่งนี้ไม่ได้เกิดจากการขุดขึ้นแต่เกิดจากการนำดินมาทำเป็นคันคูเพื่อเก็บกักน้ำ ทางเข้าปราสาทซึ่งเป็นทางเดินหิน สองข้างทางคือเสานางเรียงที่มากที่สุดในเมืองไทย มีทั้งหมด 142 ต้น ทอดตัวไปสู่ตัวปราสาทเบื้องหน้าเรา โดยก่อนทางเข้าปราสาทเราจะพบกับสระสรง ซึ่งเป็นสระที่กษัตริย์แห่งอาณาจักรขอมในอดีตจะมาสรงน้ำแล้วเปลี่ยนเครื่องทรงเพื่อเข้าไปประกอบพิธีกรรมหลั่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ด้านในตัวปราสาท ที่นี่มีการพบหลักศิลาจารึกสด๊กก๊อกธม (หลักที่ 2) ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและสำคัญยิ่ง ได้จดบันทึกเรื่องราว ประวัติศาสตร์ของชนชาติขอมเป็นช่วงระยะเวลานานถึง 200 ปี นับจากรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 (พ.ศ. 1345-1393) กษัตริย์ผู้สถาปนาอาณาจักรเมืองพระนคร และเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบเทวราช ในจารึกได้กล่าวถึงกษัตริย์อีกหลายพระองค์ จนถึงสมัยพระเจ้าอุทยาทิตยวรมันที่ 2 ปราสาทสด๊กก๊อกธมจึงเป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญยิ่งทางประวัติศาสตร์ขอมโบราณ พร้อมชมพิพิธภัณฑ์ที่ภายในเก็บโบราณวัตถุล้ำค่า ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของปราสาท
ปิดท้ายเส้นทางด้วยการชมกิจกรรม Butterfly Night Market ที่รวบรวมเอาของดี ของเด่นประจำจังหวัดสระแก้ว มีลานวัฒนธรรม ซุ้มโดมผีเสื้อ แสงสีตระการตา และการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากเยาวชนในจังหวัดสระแก้ว รวมทั้งมีการออกบูธกว่า 50 บูธ จำหน่ายสินค้าโอทอป ของที่ระลึก สินค้าวัฒนธรรม และอาหาร 5 ชนเผ่า ณ บริเวณสวนสาธารณะสระแก้ว-สระขวัญ
นักท่องเที่ยวท่านใดสนใจเที่ยว จ.สระแก้ว ตามโปรแกรมนี้ก็สามารถติดต่อได้ที่สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) บริษัท เมืองไทย ครีเอทีฟ แอนด์ ทัวร์ โทร. 081-251-2207, 085-065-8144, 064-232-2878. 062-669-6441
.jpg)
